บทความนี้เราจะมาดูวิธีในการเลือกเครื่องฟอกอากาศให้คุ้มค่ากับการลงทุนของเรามากที่สุด และเหมาะสมกับพื้นที่ของเรามากที่สุด การเลือกเครื่องฟอกอากาศนั้นหลักๆ จะมีอยู่ 5 ปัจจัยที่ช่วยในการตัดสินใจของเรา
ขนาดของห้อง
– ขนาดของห้องเป็นสิ่งที่สำคัญในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ
ยิ่งห้องของเรามีพื้นที่มากเท่าไหร่เราก็ต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ใหญ่มากขึ้น
เพื่อที่เครื่องฟอกอากาศจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ดังนั้นวิธีการคือวัดขนาดกว้าง ยาวของห้องแล้วดูค่าเปลี่ยนถ่ายอากาศทุกชั่วโมงของเครื่องฟอกอากาศว่าค่าคือเท่าไร
ค่า CADR
– ค่า CADR หรือ อัตราการเปลี่ยนถ่ายอากาศต่อชั่วโมงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกเครื่องฟอกอากาศ
ซึ่งตัวเลขนี้จะวัดปริมาณทั้งหมดที่เครื่องฟอกอากาศสามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ได้เท่าไหร่ใน 1 นาที ยิ่งตัวเลขสูงยิ่งทำความสะอาดได้ดี
Air Volume หรือ Ari Flow
– เปรียบเทียบค่า Air Volume หรือ Air Flow ของเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่น
ว่าแตกต่างกันหรือไม่ โดยตัวเลขจะแสดงถึงความรวดเร็วในการกรองอากาศ
ยิ่งตัวเลข Air Flow สูงมากขึ้นเท่าไหร่ก็แสดงว่าเครื่องฟอกตัวนี้สามารถกรองอากาศให้เป็นอากาศ
บริสุทธิ์เร็วขึ้นมากเท่านั้น
ประหยัดพลังงาน
– การเลือกเครื่องกรองอากาศแบบประหยัดพลังงานนอกจากจะช่วยลดโลกร้อนแล้วยังช่วยเราประหยัดค่าไฟอีกด้วย
ส่วนหนึ่งที่มีผลต่อการทำงานของเครื่องฟอกอากาศคือ แผ่นกรอง ถ้าแผ่นกรองยิ่งหนามากจะทำให้อากาศผ่านได้น้อย
จะยิ่งทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานหนักขึ้นและกินไฟมากขึ้น
เพราะฉะนั้นเราควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองสามารถทำให้อากาศไหลผ่านได้ ดังนั้นเราควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองสามารถทำให้อากาศไหลผ่านได้ดี รวมถึงให้พิจารณาถึงฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ร่วมด้วย